ความกตัญญูและกตเวที

............กตัญญู คือ รู้คุณท่าน ได้แก่ การรู้สำนึกถึงพระคุณของผู้ที่มีพระคุณแก่ตน ในทางมนุษย์ท่านว่าพ่อและแม่เป็นบุคคลแรกและบุคคลสูงสุดของลูกทุกคนในด้านพระคุณ บุคคลนอกจากพ่อและแม่แล้ว ถึงแม้ว่าท่านมีพระคุณต่อเรามากหลายเพียงใด ก็ไม่อาจจะเทียบเท่าพระคุณของพ่อและแม่ได้ เพราะพ่อและแม่เป็นผู้ให้ชีวิตเรา ถ้าไม่มีพ่อให้เชื้อ ไม่มีแม่อุ้มท้อง ลูกทุกคนก็ไม่อาจจะเกิดมาดูโลกนี้ได้ แม้พ่อแม่บางคนจะโหดร้ายต่อลูกเพียงใดก็ตาม นั่นก็ย่อมจะเป็นพฤติกรรมภายหลัง ที่เราได้เกิดมาแล้วแต่ในด้านผู้ให้กำเนิดแล้ว พระคุณของท่านย่อมจะมีอยู่ตลอดชีวิตของเรา อันธรรมชาติของสัตว์โลก ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ดิรัจฉาน ในกมลสันดานของความเป็นแม่หรือพ่อนั้น ย่อมจะรักลูกของตนยิ่งชีวิต บางครั้งถึงกับยอมตายแทนลูกได้ แต่ที่พ่อแม่บางรายมีความโหดร้ายทารุณ จนผิดวิสัยของผู้บังเกิดเกล้านั้น ก็เกิดจากอกุศลกรรมในอดีตชาติของลูกมาบันดาลให้เป็นไป ลูกสัมมาทิฐิจึงมิบังควรจะก่อเวรกับพ่อแม่อีกต่อไป ควรแก้ด้วยการทำความดีในทุกรูปแบบ มิฉะนั้นเวรก็จะไม่ระงับเพราะเวรย่อมจะระงับได้ด้วยการไม่จองเวร
คนดีย่อมจะเป็นผู้มีกตัญญูและกตเวที
............ในการดูคนทั่วไปไม่ว่าหญิงหรือชาย ว่าเขาจะเป็นคนดีหรือชั่วนั้น วิธีที่จะดูให้แน่ที่สุดและแม่นที่สุดก็จะต้องดูที่การแสดงออกของเขาในเรื่อง ความกตัญญูคือการรู้คุณคนที่มีคุณ และความมีกตเวทีคือคิดตอบแทนพระคุณของผู้มีพระคุณ คุณธรรมทั้งสองนี้จะต้องทำไปพร้อมกันคือต้องระลึกถึงคุณและตอบแทนคุณในทันที ถ้าพ่อแม่เป็นคนไม่ดีต่อลูก เราจะต้องระลึกถึงคุณและตอบแทนคุณด้วยหรือ ?
............ลูกที่ดีจะต้องระลึกถึงคุณ และคิดตอบแทนพระคุณของท่านเสมอ ไม่ว่าพ่อแม่ของเราจะเป็นคนชั่วร้ายเลวทรามปานใด ก็ไม่มีข้อยกเว้นทั้งสิ้น จะต่างก็แต่ว่าเราจะตอบแทนพระคุณของท่านในช่วงไหนที่เหมาะสมเท่านั้น ก่อนอื่นเราในฐานะลูกที่ดี เราจะต้องแยกให้ออกก่อนว่า พ่อและแม่มีพระคุณต่อลูก 2 ระยะ ดังนี้ - การให้เกิด มีพ่อและแม่เท่านั้นที่ทำหน้าที่นี้ได้ คนทั้งโลกยกเว้นพ่อและแม่ย่อมจะหมดสิทธิ์ที่จะทำหน้าที่นี้ต่อเรา
- การเลี้ยงดู พ่อแม่หรือใครๆ ก็ทำได้ ถ้าพ่อแม่ทำหน้าที่นี้ด้วย ท่านก็จะมีพระคุณต่อลูกครบวงจร คือ ทำให้เกิดด้วยและเลี้ยงดูด้วย
การเลี้ยงลูกที่ดีที่สุด ก็คือ ต้องเลี้ยงทั้งร่างกายและจิตใจ ให้มีความสมบูรณ์ไปพร้อมๆ กัน
เลี้ยงร่างกาย คือ ให้ร่างกายเติบโตสมบูรณ์มีสุขภาพอนามัยดี มีความรู้ มีความสามารถในการเลี้ยงตัวเอง และพึ่งตัวเองได้ในสัมมาชีพ
เลี้ยงจิตใจ คือ ต้องให้จิตใจมีคุณธรรม มีความสำนึกในบาป-บุญ-คุณ-โทษ มีหลักธรรมในพระศาสนาเป็นเครื่องดำเนินชีวิต ไม่ทำให้ชีวิตเป็นหมันเปล่า ไม่หลงโลก ไม่ติดโลก มีปัญญาเป็นเครื่องดำเนินชีวิต มีความรู้ก็ต้องมีคุณธรรมเป็นเครื่องกำกับตลอดชีวิตด้วย คุณธรรมความดีงามทั้งหลายจะเกิดกับลูกได้ถาวรตลอดไป ลูกคนนั้นก็จะต้องมีความกตัญญูและกตเวทีเป็นพื้นฐานจิตก่อน พ่อแม่ที่ดีมีสัมมาทิฐิ ก็ควรจะต้องปลูกฝังความกตัญญูลงในจิตใจของลูกพร้อมกับการให้วิชาความรู้คู่กันไป
........ทุกสิ่งในโลกนี้ย่อมมีทั้งคุณและโทษ ย่อมขึ้นอยู่กับปัญญาของผู้ใช้ การแสดงออกของความกตัญญูและกตเวทีก็เช่นกัน ถ้าลูกหรือผู้ที่ได้รับความอุปการะช่วยเหลือแล้ว แสดงความกตัญญูและกตเวทีโดยขาดธรรมและปัญญาร่วมด้วยแล้ว ก็ย่อมจะก่อปัญหาให้แก่เราและผู้มีพระคุณได้
พระพุทธพจน์
พึงเลี้ยงบิดาและมารดา
ด้วยโภคทรัพย์ที่ได้มาโดยชอบธรรม
ธมฺเมน มาตาปิตโร ภเรยฺย
(ธรรมิกสูตร 25/365)
พระพุทธพจน์
เมื่อทำตามหน้าที่ของลูกผู้ชายแล้ว
ก็ไม่ต้องเดือดร้อนใจภายหลัง
กรํ ปุริสกิจฺจานิ น จ ปจฺฉานุตปฺปติ
(มหาชนกชาดก 28/151)
3 ความคิดเห็น:
เนื้อหาน่าสนใจมากค่ะ
เนื้อหาน่าสนใจมาก ตกแต่งได้อย่างสวยงามมาก
สวยงาม ดูดีมากค่ะ
แสดงความคิดเห็น